วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551
บทที่ 6 หลักการแก้ปัญหากับภาษาคอมพิวเตอร์
1.ให้นร.วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหาต่อไปนี้
1.1 หาพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อสูตรในการคำนวณพื้นที่รูปสามเหลี่ยมคือ 1/2 x สูง x ฐาน
ตอบ 1.การระบุข้อมูลเข้า
ข้อมูลเข้าก็คือ ความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ
2.การระบุข้อมูลออก
จากโจทย์สิ่งที่เป็นคำตอบของปัญหาคือพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมนั้น
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
โจทย์ต้องการหาพ.ท.ของสามเหลี่ยม ก็นำความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ มาเข้าในสูตรหาพ.ท.สามเหลี่ยม
มีขั้นตอนของการประมวลผลดังนี้
3.1รับค่าความสูงและความยาวของรูปสามเหลี่ยม
3.2 นำมาเข้าสูตร 1/2 x สูง x ฐาน (ได้ผลลัพธ์)
1.2 ตอบ 1.การระบุข้อมูลรับเข้า
คือ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี เงินต้นครั้งแรก 1,000 บาท นายสมชายฝากเงิน 5 ปี
2.การระบุข้อมูลออก
คือ จากโจทย์สิ่งที่ต้องการหาคือจำนวนเงินทั้งหมดที่นายสมชายมีในบัญชีให้เป็นตัวแปร Y
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
โจทย์ต้องการจำนวนเงินทั้งหมด สามารถสรุปเป็นขั้นตอนในการประมวลผลได้ดังนี้
3.1 หาจำนวนเงินดอกเบี้ยที่ได้ในแต่ละปี
ดอกเบี้ย 8% ต่อปี ปีแรก ได้ 1000 x 8/100 = 80 เงินในบัญชีปีแรก =1,080
ปีที่ 2 ได้ 1080 x 8/100 = 86.4 เงินในบัญชีปีที่ 2 = 1080 + 86.4= 1,166.4
ปีที่ 3 ได้ 1166.4 x 8/100 = 93.3 เงินในบัญชีปีที่ 3 = 1166.4 + 93.3 = 1,259.7
ปีที่ 4 ได้ 1259.7 x 8/100 = 100.8 เงินในบัญชีปีที่ 4 = 1259.7 + 100.8 = 1360.5
ปีที่ 5 ได้ 1360.5 x 8/100 = 108.8 เงินในบัญชีปีที่ 5 = 1360.5 + 108.8 = 1469.3
เพราะฉะน้น y = 1469.5 บาท หรือ นายสมชายมีเงินในบัญชีธนาคารเมื่อครบ 5 ปี คือ 1469.50 บาท
1.3ตอบ
1.การระบุข้อมูลเข้า
จากโจทย์ข้อมูลเข้าคือ
- นักเรียนมีทั้งหมด 30 คน
- คะแนนเต็ม 100 คะแนน
มีเกณฑ์ให้คะแนนคือ > 80 ได้เกรด 4
70-79 ได้เกรด 3
60-69 ได้เกรด 2
50-59 ได้เกรด 1
<>
2.การระบุข้อมูลออก
ต้องการเกรดเฉลี่ย ของนร. ชั้นม. 4 จำนวน 30 คน
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
1.นำคะแนนเก็บของนักเรียนทั้ง 30 คน มาตรวจสอบ ว่าแต่ละคนได้ เกรดอะไร
2.นำเกรดของทั้ง 30 คนมาบวกกัน
3.นำเกรดที่บวกได้/จำนวนนร.ทั้งหมด
4.ได้เกรดวิชาเทคโนโลยีและสารสนเทศของนร.
3. ตอบหากนักเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาโปรแกรมคำนวณเกรดเฉลี่ยของนักเรียนในโรงเรียน นักเรียนจะเลือกใช้ภาษาปาสคาล ภาษาจาวา หรือภาษาเดลฟายในการเขียนโปรแกรมดังกล่าว เพราะเหตุใดตอบ. จะให้เลือกภาษาปาสคาล เพราะว่าเป็นภาษาในกลุ่มโปรแกรมแบบโครงสร้าง ซึ่งมุ่งเน้นให้มีการแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อยๆชัดเจนจากนั้นจึงค่อยเชื่อมโยงทำให้สามารถจัดการได้โดยง่าย ภาษปาสคาลจึงเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับสร้างพื้นฐานความคิดในการเขียนโปรแกรมโครงให้แก่นักเรียน สามารถให้ทักษะในการเขียนโปรแกรมอย่างมีหลักเกณฑ์และถูกต้อง และสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย
1.1 หาพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อสูตรในการคำนวณพื้นที่รูปสามเหลี่ยมคือ 1/2 x สูง x ฐาน
ตอบ 1.การระบุข้อมูลเข้า
ข้อมูลเข้าก็คือ ความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ
2.การระบุข้อมูลออก
จากโจทย์สิ่งที่เป็นคำตอบของปัญหาคือพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมนั้น
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
โจทย์ต้องการหาพ.ท.ของสามเหลี่ยม ก็นำความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ มาเข้าในสูตรหาพ.ท.สามเหลี่ยม
มีขั้นตอนของการประมวลผลดังนี้
3.1รับค่าความสูงและความยาวของรูปสามเหลี่ยม
3.2 นำมาเข้าสูตร 1/2 x สูง x ฐาน (ได้ผลลัพธ์)
1.2 ตอบ 1.การระบุข้อมูลรับเข้า
คือ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี เงินต้นครั้งแรก 1,000 บาท นายสมชายฝากเงิน 5 ปี
2.การระบุข้อมูลออก
คือ จากโจทย์สิ่งที่ต้องการหาคือจำนวนเงินทั้งหมดที่นายสมชายมีในบัญชีให้เป็นตัวแปร Y
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
โจทย์ต้องการจำนวนเงินทั้งหมด สามารถสรุปเป็นขั้นตอนในการประมวลผลได้ดังนี้
3.1 หาจำนวนเงินดอกเบี้ยที่ได้ในแต่ละปี
ดอกเบี้ย 8% ต่อปี ปีแรก ได้ 1000 x 8/100 = 80 เงินในบัญชีปีแรก =1,080
ปีที่ 2 ได้ 1080 x 8/100 = 86.4 เงินในบัญชีปีที่ 2 = 1080 + 86.4= 1,166.4
ปีที่ 3 ได้ 1166.4 x 8/100 = 93.3 เงินในบัญชีปีที่ 3 = 1166.4 + 93.3 = 1,259.7
ปีที่ 4 ได้ 1259.7 x 8/100 = 100.8 เงินในบัญชีปีที่ 4 = 1259.7 + 100.8 = 1360.5
ปีที่ 5 ได้ 1360.5 x 8/100 = 108.8 เงินในบัญชีปีที่ 5 = 1360.5 + 108.8 = 1469.3
เพราะฉะน้น y = 1469.5 บาท หรือ นายสมชายมีเงินในบัญชีธนาคารเมื่อครบ 5 ปี คือ 1469.50 บาท
1.3ตอบ
1.การระบุข้อมูลเข้า
จากโจทย์ข้อมูลเข้าคือ
- นักเรียนมีทั้งหมด 30 คน
- คะแนนเต็ม 100 คะแนน
มีเกณฑ์ให้คะแนนคือ > 80 ได้เกรด 4
70-79 ได้เกรด 3
60-69 ได้เกรด 2
50-59 ได้เกรด 1
<>
2.การระบุข้อมูลออก
ต้องการเกรดเฉลี่ย ของนร. ชั้นม. 4 จำนวน 30 คน
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
1.นำคะแนนเก็บของนักเรียนทั้ง 30 คน มาตรวจสอบ ว่าแต่ละคนได้ เกรดอะไร
2.นำเกรดของทั้ง 30 คนมาบวกกัน
3.นำเกรดที่บวกได้/จำนวนนร.ทั้งหมด
4.ได้เกรดวิชาเทคโนโลยีและสารสนเทศของนร.
3. ตอบหากนักเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาโปรแกรมคำนวณเกรดเฉลี่ยของนักเรียนในโรงเรียน นักเรียนจะเลือกใช้ภาษาปาสคาล ภาษาจาวา หรือภาษาเดลฟายในการเขียนโปรแกรมดังกล่าว เพราะเหตุใดตอบ. จะให้เลือกภาษาปาสคาล เพราะว่าเป็นภาษาในกลุ่มโปรแกรมแบบโครงสร้าง ซึ่งมุ่งเน้นให้มีการแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อยๆชัดเจนจากนั้นจึงค่อยเชื่อมโยงทำให้สามารถจัดการได้โดยง่าย ภาษปาสคาลจึงเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับสร้างพื้นฐานความคิดในการเขียนโปรแกรมโครงให้แก่นักเรียน สามารถให้ทักษะในการเขียนโปรแกรมอย่างมีหลักเกณฑ์และถูกต้อง และสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย
วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551
บทที่ 5
ตัวแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องมีกี่ประเภท
8 ประเภทคือ
1.ภาษาฟอร์แทรน
2.ภาษาโคบอล
3.ภาษาเบสิก
4.ภาษาปาสคาล
5.ภาษาซีและซีพลัสพลัส
6.ภาษาวิชวลเบสิก
7.ภาษาวาจา
8.ภาษาเดลฟาย
8 ประเภทคือ
1.ภาษาฟอร์แทรน
2.ภาษาโคบอล
3.ภาษาเบสิก
4.ภาษาปาสคาล
5.ภาษาซีและซีพลัสพลัส
6.ภาษาวิชวลเบสิก
7.ภาษาวาจา
8.ภาษาเดลฟาย
บทที่ 5
แอสเซมบลีเป็นภาษาระดับใดและมีลักษณะอย่างไร
ภาษาระดับสูง เช่น ภาษา C หรือภาษา BASIC แต่จะทำให้ได้ผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมเร็วกว่า และขนาดของตัวโปรแกรมมีขนาดเนื้อที่น้อยกว่าโปรแกรมที่สร้างจากภาษาอื่นมาก จึงนิยมใช้ภาษานี้เมื่อต้องการประหยัดเวลาทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม
เนื่องจากตัวคำสั่งภายในภาษาอ้างอิงเฉพาะกับรุ่นของหน่วยประมวลผล ดังนั้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปใช้กับหน่วยประมวลผลอื่นหรือระบบอื่น (เช่น หน่วยประมวลผล x86 ไม่เหมือนกับ z80) จะต้องมีการปรับแก้ตัวคำสั่งภายในซึ่งบางครั้งอาจไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
ภาษาระดับสูง เช่น ภาษา C หรือภาษา BASIC แต่จะทำให้ได้ผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมเร็วกว่า และขนาดของตัวโปรแกรมมีขนาดเนื้อที่น้อยกว่าโปรแกรมที่สร้างจากภาษาอื่นมาก จึงนิยมใช้ภาษานี้เมื่อต้องการประหยัดเวลาทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม
เนื่องจากตัวคำสั่งภายในภาษาอ้างอิงเฉพาะกับรุ่นของหน่วยประมวลผล ดังนั้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปใช้กับหน่วยประมวลผลอื่นหรือระบบอื่น (เช่น หน่วยประมวลผล x86 ไม่เหมือนกับ z80) จะต้องมีการปรับแก้ตัวคำสั่งภายในซึ่งบางครั้งอาจไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
บทที่ 5
จงบอกประโยชน์ของซอฟท์แวร์จัดการฐานข้อมูล
ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลช่วยให้ผู้ใช้ดำเนินการจัดการข้อมูลได้ง่าย และมีให้เลือกใช้ได้หลายซอฟต์แวร์ ทุกซอฟต์แวร์เน้นให้ผู้ใช้สามารถสร้างแฟ้มข้อมูล ช่วยในการจัดเก็บ การขอดู การเรียกค้น การเพิ่มเติม การลบ การจัดเรียง และการทำรายงาน การจัดเก็บฐานข้อมูลภายใต้การทำงานของซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล เป็นเรื่องทางเทคนิคภายในที่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้ใช้งานฐานข้อมูลทั่วไปไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เพราะซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลยังสามารถควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ในฐานข้อมูลข้อมูลที่ปรากฎในฐานข้อมูลจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ความถูกต้อง เช่น เมื่อกำหนดว่าพนักงานของบริษัทแต่ละคน จะทำงานได้เพียงแผนกเดียว พนักงานนั้นจะมีชื่อไปปรากฎสังกัดแผนกอื่นมากกว่าหนึ่งไม่ได้ หรืออายุของพนักงานจะมีค่ามากกว่าร้อยปีไม่ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ความถูกต้องของข้อมูลจะรวมถึงว่าข้อมูลในฐานข้อมูลต้องสอดคล้องหรือไม่เกิดการขัดแย้งกัน เช่น วันเกิดของพนักงานที่แสดงไว้ในที่ต่าง ๆ จะต้องบันทึกไว้ตรงกันซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจะต้องมีคำสั่งซึ่งอาจเลือกได้จากเมนูรายการคำสั่ง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการทำงาน เมื่อมีกำหนนดกฏเกณฑ์ไว้แล้ว ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจะทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมความถูกต้องให้กับผู้ใช้
ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลช่วยให้ผู้ใช้ดำเนินการจัดการข้อมูลได้ง่าย และมีให้เลือกใช้ได้หลายซอฟต์แวร์ ทุกซอฟต์แวร์เน้นให้ผู้ใช้สามารถสร้างแฟ้มข้อมูล ช่วยในการจัดเก็บ การขอดู การเรียกค้น การเพิ่มเติม การลบ การจัดเรียง และการทำรายงาน การจัดเก็บฐานข้อมูลภายใต้การทำงานของซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล เป็นเรื่องทางเทคนิคภายในที่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้ใช้งานฐานข้อมูลทั่วไปไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เพราะซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลยังสามารถควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ในฐานข้อมูลข้อมูลที่ปรากฎในฐานข้อมูลจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ความถูกต้อง เช่น เมื่อกำหนดว่าพนักงานของบริษัทแต่ละคน จะทำงานได้เพียงแผนกเดียว พนักงานนั้นจะมีชื่อไปปรากฎสังกัดแผนกอื่นมากกว่าหนึ่งไม่ได้ หรืออายุของพนักงานจะมีค่ามากกว่าร้อยปีไม่ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ความถูกต้องของข้อมูลจะรวมถึงว่าข้อมูลในฐานข้อมูลต้องสอดคล้องหรือไม่เกิดการขัดแย้งกัน เช่น วันเกิดของพนักงานที่แสดงไว้ในที่ต่าง ๆ จะต้องบันทึกไว้ตรงกันซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจะต้องมีคำสั่งซึ่งอาจเลือกได้จากเมนูรายการคำสั่ง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการทำงาน เมื่อมีกำหนนดกฏเกณฑ์ไว้แล้ว ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจะทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมความถูกต้องให้กับผู้ใช้
บทที่ 5
อธิบายประสิทธฺภาพของซอฟต์แวร์ตารางทำงานนอกเหนือจากที่กล่าวในบทเรียนมา 3 ข้อ
1. สามารถแสดงรายงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบที่สวยงาม
2. พิมพ์เป็นกราฟิกรูปภาพ หรือการแสดงผลอื่น ๆ
3. ทำเป็นฟังก์ชันการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันการคำนวณทางสถิติ
1. สามารถแสดงรายงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบที่สวยงาม
2. พิมพ์เป็นกราฟิกรูปภาพ หรือการแสดงผลอื่น ๆ
3. ทำเป็นฟังก์ชันการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันการคำนวณทางสถิติ
บทที่ 5
จงอธิบายลักษณะของซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะด้าน หรือในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในท้องตลาดทั่วไป แต่จะซื้อหาได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานทั่วไปโครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้า และระบบของงาน ภายในซอฟต์แวร์ควรจะมีส่วนทำงานประมวลคำเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และการนัดหมายตามกำหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์เฉพาะทางนี้ มีทั้งรูปแบบที่มีผู้ใช้งานคนเดียว หรือผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคนในประเทศไทยมีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใช้งานเฉพาะทางอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ ในที่นี้ได้รวบรวมจัดประเภท ไว้ดังนี้1) ซอฟต์แวร์ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือน2) ซอฟต์แวร์ระบบงานจัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานบริหารสินค้าคงคลัง ระบบงานควบคุมสินค้าแบบจำนวนและรายชิ้น และระบบงานประวัติการขาย3) ซอฟต์แวร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบงานกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุม การทำงานภายในโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า และการกำหนดขั้นตอนการผลิต4) ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการเช่าซื้อรถยนต์
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะด้าน หรือในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในท้องตลาดทั่วไป แต่จะซื้อหาได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานทั่วไปโครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้า และระบบของงาน ภายในซอฟต์แวร์ควรจะมีส่วนทำงานประมวลคำเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และการนัดหมายตามกำหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์เฉพาะทางนี้ มีทั้งรูปแบบที่มีผู้ใช้งานคนเดียว หรือผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคนในประเทศไทยมีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใช้งานเฉพาะทางอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ ในที่นี้ได้รวบรวมจัดประเภท ไว้ดังนี้1) ซอฟต์แวร์ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือน2) ซอฟต์แวร์ระบบงานจัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานบริหารสินค้าคงคลัง ระบบงานควบคุมสินค้าแบบจำนวนและรายชิ้น และระบบงานประวัติการขาย3) ซอฟต์แวร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบงานกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุม การทำงานภายในโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า และการกำหนดขั้นตอนการผลิต4) ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการเช่าซื้อรถยนต์
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)